เมนู

ด้วยกายซึ่งวิโมกข์อันก้าวล่วงรูปาวจรฌานแล้ว เป็นธรรมไม่มีรูปสงบ
ระงับอยู่เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นควรเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล ประกอบ
ธรรมเครื่องระงับจิตอันเป็นไปในภายใน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง ประกอบ
วิปัสสนา เพิ่มพูน ( การอยู่ใน ) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 9


[82] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็น
โสดาบัน เพราะความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ 3 พึงเป็นผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็น
ธรรมดา เป็นผู้เที่ยง (ที่จะตรัสรู้) มีอันตรัสรู้เป็นเบื้องหน้าเถิด ดังนี้
ภิกษุนั้นควรเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล ประกอบธรรมเครื่องระงับจิต
อันเป็นไปในภายใน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง ประกอบด้วยวิปัสสนา เพิ่ม
พูน (การอยู่ใน) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 10


[83] ดูก่อนภิกษุทั้งหลา ย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราเป็นพระ
สกทาคามี เพราะความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ 3 ( และ) เพราะราคะ
โทสะ โมหะ เป็นสภาพเบาบาง พึงมาสู่โลกนี้เพียงครั้งเดียว แล้วพึง
ทำที่สุดทุกข์ได้เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นควรเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีล ประกอบ
ธรรมเครื่องระงับจิตอันเป็นไปในภายใน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง ประกอบ
ด้วยวิปัสสนา เพิ่มพูน (การอยู่ใน) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 11


[84] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็น